มหาเศรษฐีรัสเซียได้สูญเสีย ‘ความร่ำรวย’ไปแล้ว 1.3 ล้านล้านบาท
ขึ้นชื่อว่าบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของรัสเซียกำลังรู้สึกกดดันจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น
ในสงครามที่กำลังปะทุระหว่างประเทศและยูเครน โดยความร่ำรวยของพวกเขานั้นได้ลดลงอย่างมากหลังการตัดสินใจของ ‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ประกาศบุกบุกยูเครน ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง พวกเขาสูญเสียเงิน 3.9 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 1.3 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่าความมั่งคั่งที่พวกเขาทำได้ในปีนี้รวมกัน
ซึ่งต้นเหตุนี้ส่งผลให้การลดลงส่วนใหญ่อยู่ในประเภทสินทรัพย์ MOEX Russia Index ที่ได้ปิดตัวลง 33% ในมอสโก ซึ่งถือเป็นการดิ่งลงของตราสารหุ้นที่แย่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้นในแง่ของสกุลเงินท้องถิ่นของโลก โดยนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เหตุการณ์ Black Monday ในปี 1987 ซึ่งการลดลงดังกล่าวกระทบตลาดมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะนั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ในขณะเดียวกัน UBS Group AG ได้กระตุ้นให้ลูกค้าบางรายใช้พันธบัตรรัสเซียเป็นหลักประกันสำหรับพอร์ตการลงทุนของพวกเขา หลังจากที่ได้ลดมูลค่าการปล่อยกู้ของหนี้บางส่วนจากประเทศเหลือศูนย์
Bloomberg ได้ชี้ว่า นี่คือหนึ่งในวิกฤตการณ์ด้านความปลอดภัยที่เลวร้ายที่สุดในยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 การบุกโจมตีได้ส่งผลให้มูลค่าของตลาดนี้ลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัสเซียซึ่งได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรอยู่แล้ว โดยมหาเศรษฐีจำนวนหนึ่ง รวมทั้ง เกนนาดี ทิมเชนโก (Gennady Timchenko) กำลังเผชิญการคว่ำบาตรจากการที่ถูกรายงานถึงความสัมพันธ์กับปูติน
วากิต อเล็กเปรอฟ (Vagit Alekperov) ประธาน Lukoil ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมัน เห็นความร่ำรวยของเขาลดลงอย่างมาก โดยลดลงมากถึง 1 ใน 3 ภายใน 1 วัน โดยหายไปราว 6.2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2 แสนล้านบาท เหลือความมั่งคั่ง 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ตามดัชนี Bloomberg Billionaires ส่วนหุ้นของผู้ผลิตน้ำมันในมอสโกร่วงลงประมาณ 33% ในวันพฤหัสบดี (24 กุมภาพันธ์)
อเล็กซีย์ มอร์ดาชอฟ (Aexey Mordashov) ประธานบริษัทผู้ผลิตเหล็ก Severstal สูญเสียเงินไป 4.2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.4 แสนล้านบาท ขณะที่ วลาดีเมียร์ โปตานิน (Vladimir Potanin) ประธานบริษัท Norilsk Nickel และปัจจุบันเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของรัสเซีย สูญเสียความร่ำรวย 3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 9.8 หมื่นล้านบาท
ทั้งอเล็กเปรอฟและทิมเชนโกต่างสูญเสียเงินไปประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 3.3 แสนล้านบาทในปีนี้ หรือมากกว่า 40% ของทรัพย์สินทั้งหมดของพวกเขา ซึ่งนี่เป็นเปอร์เซ็นต์ที่ลดลงมากที่สุดในบรรดามหาเศรษฐีชาวรัสเซียที่ติดตามโดยดัชนีความมั่งคั่งของ Bloomberg
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ cosmiledoc.com
